Hetalia: สิ่งที่พี่ชายจะทำได้
แฟนฟิค HETALIA เกี่ยวกับความเป็นมาของอังกฤษ และน้องชายเขา...อเมริกา...เศร้าหน่อยนะครับ
ผู้เข้าชมรวม
625
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ในช่วงค.ศ.1500กว่าๆ ถึง 1600กว่าๆ อังกฤษได้เดินเร่ร่อนอยู่บนพื้นที่ใหม่ที่ได้ข่าวว่าเพิ่งถูกค้นพบ ทวีปที่เต็มไปด้วยป่าเขารกเต็มไปหมดและธรรมชาติยึดครองส้ะส่วนใหญ่ ข้างหลังเขาเป็นทะเล ซึ่งเรือรำใหญ่ของเขาจอดเทียบชายหาดขาวๆ อยู่
อังกฤษปัดผมสีทองของเขาออกจากหน้าเพื่อให้มองเห็นอะไรได้ง่ายขึ้น เขาปาดเหงื่อที่ใหลจากหน้าภาคออกจากคิ้วหนาๆ ของเขา
ตาเขียวๆ ทั้งคู่จับจ้องไปรอบๆ มือถือปืนกระบอกยาวและมีมีดกับดาบอยู่ที่เอว "ตัดต้นไม้ที่ขวางหน้าทั้งหมดให้เป็นทางเดินส้ะ การเดินทางจะได้ง่ายขึ้น" เขาชี้ไปข้างหน้าและสั่งกลุ่มนักสำรวจชาวอังกฤษที่เดินตามโดยทันที กลุ่มนักสำรวจรีบตั้งเข้าไปตัดต้นไม้ทีละต้นจนภายในสองวันได้เกิดทางเดินยาวไปใจกลางป่าขึ้น อังกฤษได้สั่งคนงานของเขาให้เริ่มสร้างค่ายและจัดการเรื่องน้ำกับอาหารให้เรียบร้อยโดยไม่รังเร คนที่มีความเป็นผู้นำและมีประสบการณ์สูงอย่างเขาไม่จำเป็นต้องคิดนาน เขารู้ขั้นตอนของทุกอย่างดี จัดทุกอย่างให้เป็นระเบียบและเข้าที่เข้าทาง เหมือนที่ผู้ดีอังกฤษควรทำทุกคน
ในระยะเวลาช่วงสั้นๆ ของการสำรวจเขาเดินจดและวาดเกี่ยวกับสัตว์แปลกใหม่ต่างๆ ต้นไม้และพื้ชผลที่ไม่เคยเห็นและก็การค้นพบทั่วไป เขาห่วงอย่างเดียวคือการประชันหน้ากับไอ้วิปริตฝรั่งเศษนั่น แต่คงสังเกตุในป่าสีเขียวเข้มนี้ได้ไม่ยากถ้าจะหากองทัพฝรั่งเศษในชุดสีแดงแจ๊ดสุดอินเทรนด์ที่ดีไซน์โดยนักออกแบบที่การันตีความ 'เริ่ด' ให้เหล่าทหารฝรั่งเศษ (หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ทหารฝรั่งเศษโดนตกเป็นเป้ายิงได้ง่ายในสมรภูมิรบเมื่อสมัยก่อน) และเขายังเป็นห่วงกับการต้องเจอทั้งสเปนและปอร์ตุเกต
ความกังวลยังไม่ทันได้หายจากจิตใจในพุ่มไม้ก็มีเสียงสั่นดังมาทางเขาแล้ว อังกฤษที่ยื่นอยู่คนเดียวนอกค่ายนั้นรีบเก็บสมุถบรรทึกและคว้าปืนขึ้นมาเล็ง เขาเล็งไปรอบๆ ซ้าย... ขวา... แต่ก็ไม่มีใคร... ด้วยความไม่ประมาทเขาเล็งต่อไป และค่อยๆ เอนตัวลงไปหยิบก้อนหินข้างๆ เท้าเขาเพื่อปาเข้าไปในพุ่มไม้...
"โอ้ย!" เสียงดังลั่นออกมา มีคนอยู่ในนั้น?! อังกฤษเกร็งมือจับปืนแน่นขึ้นพร้อมกับตระโกน "นั่นใครนะ?! แสดงตัวออกมานะ!!" เขาทำหน้าเครียด.... ในความเงียบสองสามนาทีเหงื่อเม็ดโตๆ เริ่มใหลเต็มหน้าเขา "ไอ้ฝรั่งเศษ! นั่นแกใช่ใหมไอ้บ้ากาม?!" เขาตระโกนเรียกคู่อาฆาตรของเขา... อังกฤษเริ่มทำไม่ใหวกับสถานการณ์ "นับหนึ่งถึงสาม...ถ้าไม่ออกมาฉันจะยิงไม่ยั้งเลย" เขาตระโกนเตือน เสียงดุดันเต็มที่ คิ้วหนาเท่านิ้วโป้งสองข้างของเขาแทบจะรวมกันเมื่อเขาขมวดมัน สายตาเพ้งจนเมื่อย และใจเต้นจนไม่เป็นจังหวะ "1..." เขานับ "2..." บุรุษปริศณาก็ยังไม่ออกมา เขากลืนน้ำลายเหือกใหญ่แล้ว กำลังจะนับต่อ "สา-" "หยุดก่อน!" เสียงน้อยๆ ลั่นขึ้น เด็กผมทองตัวเล็กๆ วิ่งออกมา ยกมือขึ้นชี้ฟ้าและน้ำตาใหลเต็มเบ้าตา "ดะ- เด็ก....หรอกหรอ?" อังกฤษตกใจกับสิ่งที่เขาเกือบยิงเลือดสาด เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ผมสีทองกับตาสีฟ้าตรงหน้าเขา เด็กน้อยยืนตัวสั่นและสกมกไปด้วยดินกับหญ้าที่ติดเสื้อคลุมสีขาวยาวถึงหัวเข่า อังกฤษลดปืนลงและเดินไปหาเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ น่ารัก
"เธอเป็นใครหล่ะ" เขาถามเด็กตัวน้อย พร้อมย่อตัวลงไปลูปหัว "ผะ-ผมชื่อ...อ-อเมริกาครับ..." อเมริกาพูดเสียงสั่นๆ อังกฤษมองที่เด็กน้อยและถาม "นี่บ้านเธอหรอ?" อังกฤษถาม "ครับ..." อเมริกาตอบแบบเขินๆ อายๆ อังกฤษยิ้มและนึกอยู่คนเดียว ภูมิประเทศก็กว้างใหญ่ดันอายุแค่นี้ น่าสงสารจริงๆ ต่อไปคงโดนรังแกเยอะแน่ๆ เขาเริ่มปัดดินโคลนออกจากแก้มและเส้นผมของอเมริกา "และไปทำไรมาถึงเลอะจังเลยเนี่ยเรา" อเมริกาแก้มแดงขึ้นด้วยความอายจึงก้มหน้าและพึมพำ "...ล่าหมูป่าครับ..." "และล่าได้ใหมละ?" "ไม่ครับ..ผมไม่ได้กินมาสองวันแล้ว.." อังกฤษตกใจ ด้วยความสงสารและเห็นใจเขาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและหยิบห่อช็อคโกแลตออกมาและชีคกระดาษที่ห่อใว้ออก "เอานี่...ฉันให้" เขายื่นให้เด็กผู้ชายตัวน้อย อเมริกามองก้อนสีน้ำตาลๆ ตรงหน้าเขาก่อนรับไปและผงกหัวขอบคุณ เขาอ่าปากกัดมันและตะลึงกับความอร่อยแปลกใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อน "หวาน..." อเมริกาพูดเบาๆ อังกฤษหัวเลาะชอบใจและย้อนกลับ "เขาเรียกว่าช็อคโกแลต ทำจากเมล็ดโกโก้นะ มันมีส่วนผสมของนม น้ำตาล มีที่ผลิตอยู่หลายที่ทั้งที่บ้านฉันเอง ฝรั่งเศษ สเปน สวิตเซอร์แลนด์ ลัทเวี-" อังกฤษเห็นเด็กชายมองตาโต หน้ามึนกับคำต่างๆ นาๆ ที่กำลังพุ่งเข้าสู่หูเขา เขาถอนหายใจ "เฮ้อออ... เอาเป็นว่า..มันอร่อยดีเนอะ ^ ^' " เขายิ้มให้อเมริกาตัวน้อย อเมริกายิ้มกลับ "และน้าชื่อไรครับ" อังกฤษสะดุ้ง.."เรียกพี่ๆ น้ามันแก่ไปโว่ย=[]=" อเมริกาหัวเราะและยิ้ม อังกฤษจับมือเล็กๆ ของอเมริกา "พี่ชื่ออังกฤษ และพี่แนะนำว่าเราก็ไปที่ค่ายพี่เพื่ออาบน้ำแต่งตัวให้หายมอมแมมก่อนดีกว่า" อังกฤษยืนขึ้นตรงและจูงมือของน้องคนใหม่ที่เดินแทะช็อคโกแลตยิ้มตามไปด้วย
วันเป็นอาทิต อาทิตเป็นเดือน เดือนเป็นปี ฤดูผ่านไป อเมริกาน้อยก็ได้เติบโตขึ้นที่อังกฤษ เรียนรู้ถึงโลกภายนอก วิชาต่างๆ และมรยาทแบบผู้ดี ถึงเขาจะเป็นคนที่รักอิสระและความเป็นส่วนตัวสูงพี่ชายเขาก็คอยจัดระเยียบให้เดินตามเป็นอย่างดี อังกฤษดูแลอเมริกาเหมือนน้องแท้ๆ และปกป้องเขาจากภัยรอบตัวและ'ไอ้หื่น' ไม่ให้มาถึงตัวอเมริกาได้ ในเวลาเดียวกันอังกฤษได้เรียนรู้และใช้ผลประโยชเต็มที่กับบ้านของอเมริกาเองและก็ได้ปักลักอณานิคมเขตแรกในบ้านของอเมริกาในปีค.ศ.1607โดยที่อเมริกาไม่เห็นชอบด้วยแต่ก็ไม่กล้าขัดใจผู้เป็นพี่ชายที่ต้องการจะดูแลเขา นับวันอเมริกาตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนเทียบเท่ากับอังกฤษ และก็ได้ถึงวันพิเศษวันนึงของเขา วันที่4 กรกฏาคม "สุขสันต์วันเกิดนะอเมริกา!" อังกฤษโอบน้องชายที่ตัวเท่าเขา "พี่อย่าทำตรงนี้ดิ คนอื่นเขาเห็นหมด!" อเมริกาผลักเขาออก และยืนหน้าแดงอยู่ใกล้ๆ "อะไรกันละ แต่ก่อนยังกระโดดกอดฉันอยู่เลยนิ"อังกฤษบ่น "นั่นมันกี่ร้อยปีแล้วละ! ตอนนี้ผมก็โตแล้วนะใว้หน้ากันบ้าง" "ไรละ! ไม่นานมานี้แกยังนุ่งผ้าอ้อมอยู่เลย!" อังกฤษยืนยันและพุ่งตรงดิ่งเข้าไปแก้เน็คไทด์ของอเมริกาที่ผูกแบบรีบๆ และเละๆ "นั่นมันก็หลายร้อยปีแล้วเหมือนกันนะ" อเมริกาพูดอย่างไม่พอใจ เขาดึงมือพี่ชายเขาออกและมองหน้าอย่างซีเรียส "ไม่ว่าแกจะอายุเท่าไหร่ แกก็เป็นน้องน้อยของฉันอยู่ดีนะ" "ผมไม่น้อยแล้ว และผมโตพอแล้ว ผมอยากออกไปท่องโลก อย่างดูแลประเทศเอง อยากตัดสินเรื่องการเมืองเอง เหมือนที่พี่ทำให้ผมอยู่ทุกวันนี้นะ" อเมริกาบ่นและบ่นต่อก่อนจะหยุดเมื่ออังกฤษยื่นกล่องของขวัญเล็กๆ ให้ "แกะดูสิ" อเมริกาตาโตด้วยความสุขและรีบฉีคห่อของขวัญออก และก็พบกับแว่นสวยๆ ที่อยู่ข้างในกล่องแว่นหุ้มหนังแท้ "มันสวยมากเลยพี่อังกฤษ!" "ฉันรู้ว่าแกสายตาสั้น และรู้ด้วยว่าแกอยากได้คู่นี้" อเมริการีบใส่และมองไปรอบๆ "โอ้โหหหห ชัดblu-rayเลยยย" อังกฤษยิ้มสุดแก้มกับการเห็นน้องชายมีความสุขอยู่หน้ากระจกกับแว่นใหม่ 'ฉันรักแกนะไอ้น้องชาย...' เขาคิดอยู่ในใจคนเดียว หลายๆ ครั้งเขารู้สึกว่าอเมริกาเริ่มดื้อรั้นและต่อต้านเขามากขึ้นจนบางครั้งทั้งสองทะเลาะกันอย่างรุนแรง ทำให้อเมริกาถูกตวาดหลายรอบ แต่อังกฤษเองก็เสียใจแทบร้องไห้ทุกครั้งที่ต้องตวาดหรือตีน้อง คนเป็นพี่น้องกันมันไม่อยากทำร้ายกันขนาดนี้หรอก...แต่ความรักในอิสระของอเมริกาก็ยังไม่ได้หยุดแค่การบ่นในบ้านของอังกฤษ
วันนึงอเมริกาเดินเล่นอยู่ที่บ้านของเขาเอง เขาเห็นฝรั่งเศษยืนโด่เด่อยู่ในชุดสีม่วงสว่าง ถือดอกกุหลาบในมือข้างนึงและไวน์อีกข้าง อเมริกาเดินเข้าไปทัก "อ้าว ฝรั่งเศษมายังไงเนี่ย เป็นไงบ้าง" อเมริกาทักทายอย่างเป็นมิตร ฝรั่งเศษเดินแก้มแดงด้วยความเมาเข้ามา "บองจัว เมอซิเออร์อเมริกา วันนี้ฉันมาเดินจิบไวน์เล่นเลยแวะมาทักทายนายเล่นๆ นะ สักนิดใหม? อร่อยนะ" อเมริกาลังเลแล้วตอบปฏิเสธิ "ไม่เอาหล่ะ พี่อังกฤษบอกว่าผมไม่ควรดื่ม ดื่มชาส้ะจะดีกว่า" "อังกฤษบอกนู่น อังกฤษบ่นนี่ ตกลงนี่มันบ้านอเมริกาหรือบ้านอังกฤษกันแน่" อเมริกาตกใจกับคำพูดแทงใจของฝรั่งเศษ "ไม่เอาสิ ฉันหมายถึง...นายมองดูสิ เขานั่งดูดทองและธรรมชาติและก็เงินภาษีไปจากบ้านนายสบายๆ แถมยังออกคำสั่งนู่นนี่เหมือนที่นี่มันสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่อย่างไงอย่างงั้น ฉันคิดว่านายเป็นคนรักอิสระและความเป็นตัวของตัวเองส้ะอีก สงสัยฉันจะคาดหวังมากเกินไป หึหึ" ฝรั่งเศษยิ้มมุมปากพร้อมมองอังกฤษด้วยหางตา "ลองคิดดูนะว่าประเทศอื่นจะมองนายยังไง คนที่ดูแลบ้านตัวเองไม่ได้? ลูกแหง่ไม่รู้จักโต? หมาเฝ้าบ้านอังกฤษ?" อเมริกาเริ่มหัวเสีย "ฉันไม่ใช่หมาเฝ้าบ้านใครและไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่งใครด้วย นี่มันบ้านของฉันและฉันจัดการเองได้"เขาตวาด "และอังกฤษทำแทนนายอยู่ทำไมละ" ฝรั่งเศษแหย่ อเมริกาพูดไม่ออกและได้แต่มองลงไปที่เท้าตัวเอง บ้านของเขา คนของเขา ทหารของเขา เขามัวรอไรอยู่ "ถ้าฉันเป็นนายนะ ฉันจะถอนอณานิคมส้ะและประกาศเป็นประเทศอิสระจากอำนาจของอังกฤษ" อเมริกาเกร็งตัวและยืนมองหน้าฝรั่งเศษอยู่พักนึง... ในความเงียบเขายืนคิดหนัก...และเขาก็เอ่ยปาก "และผมจะต้องทำยังไง?" ฝรั่งเศษยิ้มตอบรับ
ในบ้านของอังกฤษเอง อังกฤษนั่งจิบชายามบ่ายอยู่ในห้องทำงานเขา เอกศาลตั้งเป็นกองบนโต๊ะและปืนเต็มฝาผนัง ประเทศเขาไม่เคยสำเหร็จได้เหมือนตอนนี้มาก่อน เขามีอณานิคมอยู่ทั่วทุกมุมโลก สมกับคำที่ว่า พระอาทิตไม่เคยตกในสหราชอาณาจักรบริติช เพราะราชอาณาจักรนี้ได้ปกคลุมไปทุกทิศจนต้องมีสักที่นึงที่เป็นส่วนของราชอาณาจักรที่พระอาทิตขึ้นอยู่ แต่เขาก็ยังนั่งหน้าเครียดอยู่ กับน้องชายที่ทำตัวให้เขาปวดหัวมากขึ้นทุกวันจู่ๆ หลังๆ เริ่มขอตั้งตนเป็นประเทศของตนเอง ซึ่งเขาไม่ยอมรับโดยเด็ดขาด เขาไม่ยอมที่จะเสี่ยงให้น้องชายที่เขาดูแลมาตั้งแต่ตัวไม่เกินก้นเขาซึ่งตอนนี้สูงกว่าเขาให้ออกไปเจอเรื่องเลวร้ายข้างนอกหรอก เขาไม่พร้อมจะเสี่ยงและไม่พร้อมจะต้องเจอกับผลลัพที่เขากลัว เขายังไม่พร้อมจะสูณเสียน้องที่เขารักที่สุดไป จริงอยู่ที่อเมริกาโตแล้ว แต่ก็ยังฉลาดและมีประสบการณ์ไม่พอ เขาไม่กล้าเห็นน้องออกไปดิ้นรนเองเพราะเขารู้ตัวว่าคงอยู่ไม่สุขแน่ถ้าน้องเป็นอะไรไป... อังกฤษนวดขมับและยกแก้วชาขึ้นมาจิบ และในความสงบนั้นประตูห้องทำงานเขาก็กระเด็นเปิดขึ้น "พี่...ผมมาบอกเป็นครั้งสุดถ้าย ผมจะหลุดจากอำนาจของราชอาณาจักรพี่ และเป็นประเทศของผมเอง" "ฉันไม่อณุญาติ" "ผมไม่ได้มาขอ ผมแค่มาเตือน"อเมริกาเถียง "เหอะ ข้ามศพชั้นไปก่อนเหอะ" ทั้งสองมองหน้ากันอย่างดุเดือด แต่ทั้งคู่ก็หารู้ไม่ว่าข้างในอกของแต่ละคนมันกำลังเหมือนจะแตกสลาย "งั้น...เจอกันบนสนามรบ ผมเตือนพี่แล้ว" อเมริกากระแทกประตูและเดินออก อังกฤษผู้เป็นพี่ยืนหน้าตะลึงไม่เหลือสติ... น้องที่เขาดูแลมาอย่างดี ที่เขารักจนตายแทนได้...ประกาดสงครามกับเขา... เขาทำไรผิด เขาทำพลาดตรงไหน เขาทำอะไรที่ไม่ดีพอ หรือว่าเขายังเลี้ยงน้องไม่ดี? คำถามต่างๆ นาๆ วิ่งเข้ามาในหัวเมื่อสุดถ้ายสติเขากลับมา...พร้อมน้ำตา... อังกฤษทรุดลงกับพื้นและร้องไห้พร้อมทุบพื้นพรมห์ "อ-อะ-อเมริกา....ฮือ ฮือ...ทำไม..." น้ำตาใหลไม่หยุด อังกฤษร้องจนเหนื่อย จนน้ำตาแห้งหายไปจากนัยตา เขาเงยหน้าไร้วิญญาณไปมองปืนมัสเก็ตที่ตั้งอยู่บนกำแพงเขา เขาเดินไปหยิบและมองมัน "พี่ชายจะปกป้องแกเอง..."
ปลายศตวรรษที่18 ปี1775
ในประเทศนี่...ที่เขามาเจอเด็กคนนึง... ณ ตอนนี้ยืนอยู่ตรงหน้าเขาไกลออกไป อีกฟากนึงของสนามรบ ข้างหลังเขาคือกองทหารของราชอาณาจักรและธงยูเนี่ยนแจ็คของสหาราชอาณาจักรบริเทน ในมือเขาเป็นไปมัสเก็ตที่มีดที่ปลาย... ข้างตัวซึ่งมีแต่ปีใหญ่และผลปืนยาวพร้อมอยู่ ทหารฝั่งเขามีมากกว่าอเมริกาเห็นๆ และสามารถชนะอเมริกาได้ในการสงครามแน่ๆ เขาหยิบดาบที่เอวและชูขึ้นฟ้า "(กระซิบ)และสุดถ้ายมันก็ต้องมาลงเอยอย่างงี้สินะ....(ตระโกน)ยิง!!!" ปืนใหญ่ลั่นลูกปืนใส่ฝ่ายตรงข้ามและผลทหารยิงใส่กันอย่างไม่ลังเล ทั้งสองฝ่ายฆ่าฟันกันจนกระทั่ง ตรงใจกลางของการต่อสู้ทั้งหมด อเมริกา และอังกฤษใช้ดาบที่ปลายปืนสู้กัน ฟาดฟันและเสียบแทง อังกฤษรุกอย่างรวดเร็วขณะที่อเมริกันพยายามป้องกันอย่างสุดกำลัง อังกฤษไม่ได้ใช้ฝีมือเต็มที่แม้แต่นิด แต่เขาก็เห็นศัตรูเหนื่อยและอ่อนแรงแล้ว ทหารฝ่ายตรงข้ามจำนวนลดน้อยลงเรื่อยๆ จนจะไม่เหลือ อเมริกาจะแพ้แล้ว ประเทศนี้จะเป็นของเขา ฟ้าที่มืดคลืมสาดฝนลงมาใส่ความดุเดือดบนดิน หยาดเหงือกับสายฝน ความร้อนระอุในใจกับความเย็นของอากาศ อิสระ...และความปลอดภัย.. อังกฤษตีคมดาบขึ้นใส่ปลายมืออเมริกา ทำให้เขาทำปืนหลุดกระเด็นออกไปไกล ด้วยลำปืนที่เล็งไปยังอเมริกา อังกฤษมองจ้องไปที่น้องเขา ขณะนี้ทหารทั้งหมดหยุดนี่และจับตาดูทั้งคู่ ทหารอเมริกันยืนขาสั่นด้วยความสิ้นหวังระหว่างที่ทั้งหมดกำลังเกร็งกันสุดๆ อังกฤษผู้ยืนเล็งอยู่ในสายฝน กับศัตรูที่ห่างกันไปแค่สองช่วงแขน...ณ ตอนนี้เขามองไม่เห็นศัตรู แต่เขามองเห็นอเมริกา..น้องชายผมทองตาสีฟ้าตัวน้อยๆ ในชุดคลุมสีขาวเหมือนที่เขาเจอในตอนแรก ภาพอดีตที่ทั้งคู่ได้ผ่านพ้นกันมาพุ่งแล่นเข้ามาในหัวของอังกฤษจนเขารู้สึกเหมือนจะระเบิด ดวงตาที่จากไร้ชีวิตจู่ๆ ก็มีน้ำตาออกมา ชัยชนะที่ใกล้เอื้อมของเขาอยู่แค่ปลายนิ้ว แต่..."ฉันทำไม่ได้..." อังกฤษพูดเบาๆ ตัวที่เปียกฝนพร้อมกับน้ำตาที่ใหลไม่หยุด เขาเสียใจมามากพอกับการสู้กับน้องตัวเอง "แกมันน้องฉัน..." อังกฤษกัดฟันและปิดตาหันหน้าหาพื้น ไม่กล้าสู้หน้าอเมริกาตรงๆ เสียงร้องของอังกฤษดังไปทั่วสนามรบพร้อมกับเสียงฝน ทหารอังกฤษยืนนิ่งด้วยน้ำตาและความโศกเศร้าในใจ "...พี่ทำไมได้...." อังกฤษทิ้งปืนและทรุดลงไปตระโกนกับพื้น เขาทุปพื้นที่เปียกและร้องต่อ "พี่รักแกมากไป....พี่ผิดเอง..." อังกฤษยังคงร้องไห้ต่อในสนามรบที่หมดการฆ่าฟัน อเมริกาที่ดูเหมือนจะพ่ายแพ้ยืนมองพี่ชายที่ตอนนี้คุกเข่าอยู่กับพื้น ร้องไห้ฟูมฟาย ในหัวใจเขาตอนนี้เหมือนกำลังโดนมีดล้านๆ เล่มแทงเข้าไปกลางใจ พี่ชายที่ตอนนี้แข็งแกร่งที่สุดในโลก ที่เขารักที่สุด คนที่ไม่เคยทอดทิ้งเขา..จนถึงตอนนี้...ยอมแม้กระทั่งทิ้งปืนของตนไปก้มร้องไห้ "ไม่ว่าแกจะเลือกทางไหน เชิญแกเลย แค่จำใว้ว่า..." อังกฤษเงยหน้ามาและยิ้มพร้อมน้ำตาที่ใหลเต็มหน้า อเมริกาชูปืนพิสต้อลไปที่อังกฤษ ถ้าจะปิดฉาคสงครามนี้เขาต้องยิงอังกฤษส้ะ "แค่จำใว้ว่า...ฉันขอโทษ....และ...พี่รักแกเสมอนะ.." น้ำตาใหลจากตาอเมริกา หน้าที่ไร้อารมณ์แต่ตกแต่งด้วยเม็ดฝนกับสายน้ำตายืนจ้อง..และตอบ"ผมขอโทษ...ผมก็รักพี่..."
ปั้ง!
ในปี 1783 อังกฤษเดินพร้อมกับผ้าพันแผลที่ใหล่ขึ้นเรือพร้อมเหล่าทหารไป ทวีปที่ดูไกลออกไปเรื่อยๆ บ้านของเด็กผู้ชายคนนึงซึ่งเขาเคยดูแลสุดชีวิตที่ตอนนี้เป็นหนุ่มเต็มตัวแล้วที่ห่างจากเอื้อมของเขาออกไปที่ละนิดๆ เมื่อเรือยค่อยๆ เคลื่อนตัวไปเกาะบริเทน อังกฤษนั่งบนเก้าอี้ตัวใหญ่ของเขาและมองกลับไป แขนข้างนึงใส่เฝือก อีกข้างถือถ้วยกล่องเล็กๆ ใหญ่ไม่เกินฝ่ามือ... เขาเปิดฝากล่องนั่นขึ้นมา และจ้องที่กระดาษห่อของช็อคโกแลต... แท่งที่เขาเคยให้เด็กหัวทองตัวน้อยๆ คนนึงกลางป่า แท่งที่นำมาซึ่งทุกอย่างในวันนี้ เขามองและยิ้ม และมองกลับไปที่เกาะที่กำลังหายไปจากเขา"ฉันจะคอยดูแลแกห่างๆ......อเมริกา..."
เฮตาเลียคือผลงานของอาจาร Himaruya Hidekazu. การเอาประเทศมาเปลี่ยนกลายเป็นคนหรือที่เรียกว่า personificationนี้ไม่ได้มีเพื่อโจมตีหรือดูถูกคนเชื้อชาติหรือกลุ่มใหนตรงๆ แต่เพื่อความบรรเทิงทั้งสิ้น.
ผลงานอื่นๆ ของ Minato-Tatsumaki ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Minato-Tatsumaki
ความคิดเห็น